คำแนะนำการใช้คู่มือการจัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านรายการโทรทัศน์
รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคม รายวิชาคณิตศาสตร์
รายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
เอกสารคู่มือการจัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านรายการโทรทัศน์รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคมรายวิชาคณิตศาสตร์
และรายวิชาวิทยาศาสตร์ ในเนื้อหาที่ยาก จัดทำขึ้นเพื่อให้ครูศึกษาเรียนรู้ก่อนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีรายการโทรทัศน์เป็นสื่อช่วยสอน
ซึ่งมีข้อแนะนำดังนี้
1.
ในการจัดทำแผนการเรียนรู้ ครูต้องผนวกการจัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านรายการโทรทัศน์ในเนื้อหาที่ยากไว้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเรียนรู้ตามปกติของครู
มิฉะนั้นจะเกิดการแยกส่วนของรายการโทรทัศน์กับแผนการเรียนรู้ ซึ่งจะทาให้ดูเหมือนครูมีภาระเพิ่มขึ้น
2.
แผนการเรียนรู้แต่ละตอนในคู่มือนี้ ใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้
1 ชั่วโมง คือ ช่วงก่อนรับชมรายการ 15 นาที ระหว่างรับชมรายการ
30 นาที และหลังรับชมรายการ 15 นาที
3.
คู่มือการจัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านรายการโทรทัศน์เพื่อเป็นสื่อช่วยสอนรายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคม
รายวิชาคณิตศาสตร์ และรายวิชาวิทยาศาสตร์ เป็นการแนะนำแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครู
ซึ่งครูควรปฏิบัติตาม เนื่องจากเนื้อหา ที่นามาจัดรายการเป็นเนื้อหาที่ยากและครู กศน.จำนวนมาก ไม่ได้จบการศึกษาในสาขาการสอนภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์
แม้ในเนื้อหาที่ไม่ยากก็ยังเป็นการยากที่จะจัดกระบวนการเรียนรู้ ดังนั้นในเนื้อหาที่ยากครูจึงควรใช้แผนการจัดระบวนการเรียนรู้นี้เป็นแนวทาง
และหากครู กศน. คนใดที่จบการศึกษาในสาขาการสอนภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ หรือมีประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์มาก่อน อาจปรับหรือพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ในช่วงก่อนและหลังรับชมรายการให้น่าสนใจ
หรือเอื้อต่อการพัฒนาความสำเร็จของนักศึกษาได้ตามความเหมาะสม
4.
คู่มือนี้จัดส่งให้สถานศึกษาพร้อมตารางออกอากาศ ซึ่งจะมีวันและเวลาการออกอากาศ
รวมทั้งวันและเวลาการออกอากาศซ้ำ ระบุไว้ในตารางการออกอากาศ ก่อนที่จะมีการจัดกระบวนการเรียนรู้
ดังนั้นครู กศน.ตำบล ทุกแห่งต้องจัดกระบวนการเรียนรู้ตามวันและเวลาในตารางออกอากาศ
ตลอดจนศึกษาและทำความเข้าใจ เนื้อหาที่ปรากฏในคู่มือก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการก่อนชมรายการโทรทัศน์
เพื่อเตรียมองค์ความรู้ของครูและเตรียมการจัดกระบวนการเรียนรู้ก่อนชมรายการโทรทัศน์
5.
ในการศึกษาทำความเข้าใจเนื้อหาในคู่มือ หากมีเนื้อหาส่วนใดที่ครูไม่เข้าใจ
นั่นหมายความว่านักศึกษา กศน. ก็จะไม่เข้าใจด้วยเช่นกัน ดังนั้น
ครู กศน.ตำบล จึงต้องศึกษาเนื้อหาที่จะสอนผ่านรายการโทรทัศน์ล่วงหน้า
ส่วนใดที่ไม่เข้าใจต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อจะเสริมเติมเต็มแก่นักศึกษา หรือเพื่อตอบคำถามของนักศึกษา
หลังรับชมรายการโทรทัศน์
6.
ก่อนวันรับชมรายการโทรทัศน์ ครูต้องจัดเตรียมแบบสังเกตพฤติกรรมนักศึกษาระหว่างรับชมรายการ
เพื่อดูความสนใจใฝ่รู้ใฝ่เรียน และควรบูรณาการสังเกตพฤติกรรมตามคุณลักษณะคุณธรรม 11
ประการ และค่านิยม 12 ประการ (ซึ่งดูได้บางข้อ) เข้าไปด้วย เพื่อเป็นหลักฐานรองรับการสุ่มประเมินซ้ำของ
สมศ. ในเรื่องการประกันคุณภาพก่อนเริ่มการประกันคุณภาพรอบที่สี่
อีกทั้งยังต้องเตรียมแบบทดสอบอื่น ๆนอกเหนือจากแบบทดสอบหลังเรียนในรายการ (หากมีการจัดกระบวนการเรียนรู้หลังรับชมรายการโทรทัศน์ต่อเนื่อง)
7.
ในช่วงก่อนชมรายการ ครู กศน.ตำบลทุกคน จะมีเวลา
15 นาที ในการนำเข้าสู่บทเรียน ซึ่งในช่วงนี้ถือเป็นช่วงสำคัญ เพราะถ้าครูมีเทคนิควิธีการนำเข้าสู่บทเรียนได้น่าสนใจก็จะเป็นเครื่องดึงดูดความสนใจของผู้เรียนให้กระตือรือร้นที่จะอยากเรียนรู้เนื้อหาต่อไป
และช่วงนี้หากครูสร้างบรรยากาศให้มีความเป็นกัลยาณมิตรกับผู้เรียน ด้วยการทักทายอย่างเป็นกันเอง
และเชื่อมโยงเนื้อหาของกิจกรรมก่อนชมรายการกับช่วงของรายการโทรทัศน์ได้อย่างกลมกลืน
ก็จะทำให้กระบวนการจัดการเรียนรู้ราบรื่นไปได้ด้วยดีและในช่วงนี้ครูต้องแจ้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของเนื้อหาตอนที่จะเรียนให้ผู้เรียนทราบก่อน
เพื่อให้นักศึกษาสนใจศึกษาตามประเด็นอันจะส่งผลต่อสัมฤทธิ์ผลทางการเรียนของนักศึกษาซึ่งจะต้องได้รับการทดสอบหลังเรียน
8.
ในการรับชมรายการโทรทัศน์ ครูต้องเปิดรายการโทรทัศน์ให้นักศึกษาได้รับชมก่อนเวลาที่กำหนดมิฉะนั้นจะทำให้พลาดช่วงแรกของรายการ
ดังนั้นก่อนเริ่มรายการสัก 2 – 3 นาที ครูควรเริ่มเปิดโทรทัศน์ไว้ล่วงหน้าพร้อมกับแจ้งให้นักศึกษาเตรียมกระดาษหรือปากกาเพื่อจดบันทึกเนื้อหาสำคัญหรือเนื้อหาที่ยังไม่เข้าใจเพื่อสอบถามครูภายหลัง
9.
ช่วงระหว่างรับชมรายการ ซึ่งใช้เวลา 30 นาที ครูควรดูรายการไปพร้อม
ๆ กับนักศึกษา แม้ครูจะได้ศึกษาเนื้อหาในตอนนั้นมาล่วงหน้า แต่ในรายการโทรทัศน์ซึ่งเป็นรายการสด
อาจมีเนื้อหาหรือประเด็นที่ยังหลงเหลือและเป็นปัญหาที่ครูและผู้เรียนต้องทำความเข้าใจร่วมกัน
ครูก็ควรจดบันทึกไว้ และขณะเดียวกันก็สังเกตพฤติกรรมนักศึกษาดังที่กล่าวไว้ในข้อ
6 ไปพร้อม ๆ กัน
10.
ช่วงหลังชมรายการใช้เวลา 15 นาที ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษา
ครูแจกแบบทดสอบซึ่งจะมีประมาณ 5 – 10 ข้อ ให้นักศึกษาทำไปพร้อม
ๆ กับรายการจากนั้นครูจะเก็บกระดาษคำตอบไปตรวจให้คะแนน ระหว่างนี้ครูควรแจกแบบประเมินคุณภาพการรับชมรายการโทรทัศน์ให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็น
และเก็บส่งคืนให้กศน. อำเภอ หรือสำนักงาน กศน. จังหวัดเพื่อรวบรวมส่งศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา เพื่อเป็นข้อมูล ในการปรับปรุงคุณภาพรายการต่อไป
11.
ในการตรวจคะแนนของนักศึกษา ครูควรตรวจให้คะแนนนักศึกษาจนครบ และแจ้งผลคะแนนให้นักศึกษาได้ทราบเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาตนเองของนักศึกษา
และถ้าครูสามารถวิเคราะห์ข้อสอบได้ครูจะรู้ว่าข้อสอบข้อใดนักศึกษาทำผิดมากที่สุด ซึ่งคงต้องดูว่ามีสาเหตุมาจากตัวข้อสอบหรือตัวนักศึกษาเพื่อครูจะได้หาวิธีแก้ไขปัญหาตามสาเหตุที่พบ
และในช่วงนี้หากครูทำแผนการเรียนรู้ต่อเนื่องจากรายการที่รับชม ครูควรจะได้ประเมินความรู้ของนักศึกษา
โดยวิธีการต่าง ๆ เบื้องแรกคือการสอบถามนักศึกษาถึงความรู้ความเข้าใจที่มีต่อเนื้อหาและข้อสงสัยต่าง
ๆ และสรุปองค์ความรู้ร่วมกัน รวมทั้งเติมเต็มเนื้อหาที่ผู้เรียนสงสัย (หากครูได้เตรียมตัวมาล่วงหน้าแล้ว) รวมทั้งอาจทำกิจกรรมเพิ่มเติมตามใบงาน
ใบความรู้ที่ครู (อาจ) เตรียมไว้ เพื่อสร้างทักษะทางภาษาแก่นักศึกษา
ซึ่งต้องทำซ้ำ ๆ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น
12.
กรณีที่ผู้เรียนประสบปัญหาการเรียนรู้อย่างมาก ครูควรแนะนำให้นักศึกษาชมรายการนี้ซ้ำ
ผ่านเว็บไซต์ www.Etvthai.tv และดาวน์โหลดเก็บไว้เพื่อชมซ้ำ ๆ
ได้บ่อยๆ
13.
เนื้อหาที่นำมาจัดทำรายการโทรทัศน์ทั้ง 18 ครั้ง
ได้นำมารวบรวมไว้ในคู่มือฉบับนี้ ดังนั้นจึงเป็นการง่ายที่ครูจะศึกษา และค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อเตรียมการจัดกระบวนการ
เรียนรู้ต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลต่อนักศึกษา
แบบประเมิน
รายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา
1. คุณภาพของรายการ
คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย
R ตามความคิดเห็นของท่าน
รายการประเมิน
|
รายการประเมิน
ระดับความเหมาะสม
/
และความน่าสนใจ
|
มากที่สุด
(5
คะแนน)
|
มาก
(4
คะแนน)
|
ปานกลาง
(3
คะแนน)
|
น้อย
(2
คะแนน)
|
น้อยที่สุด
(1
คะแนน)
|
1. รูปแบบรายการมีความน่าสนใจและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
|
|
|
|
|
|
2. ความสอดคล้องกับหลักสูตร
|
|
|
|
|
|
3. ความทันสมัยของการนำเสนอ
|
|
|
|
|
|
4. พิธีกร
|
|
|
|
|
|
5. วิทยากร
|
|
|
|
|
|
6. ผู้ร่วมรายการ
|
|
|
|
|
|
7. ตัวอักษรและเทคนิควิธีนำเสนอ
|
|
|
|
|
|
8. ความคมชัดและขนาดตัวอักษร
|
|
|
|
|
|
9. ความชัดเจนในการนำเสนอรายการ
|
|
|
|
|
|
10. ความยาวของรายการ
|
|
|
|
|
|
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
- ค่าเฉลี่ยของผลการทดสอบเท่ากับ.....................................................
- ความเข้าใจในเนื้อหารายการหลังการรับชม เข้าใจ
ไม่เข้าใจ
3. ความคิดเห็น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………